“นางสาวไทย 2559” เปิดตัวมงกุฎเพชรครั้งแรก เจิดจรัสฟิตติ้งชุดไทยโบราณสุดเลอค่า 3 ยุค แห่งกรุงสยาม

View icon 639
วันที่ 22 ส.ค. 2559
แชร์

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2559 ที่บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กองประกวด "นางสาวไทย 2559" ได้จัดฟิตติ้งชุดก่อนเข้าสู่รอบการแข่งขัน Crown Presentation (รอบตัดสิน) เพื่ออวดโฉมโชว์ความงามอย่างมีคุณค่าในชุดไทยโบราณสุดเลอค่า 3 ยุค แห่งกรุงศรีอยุธยา, กรุงสุโขทัย และ กรุงรัตนโกสินทร์ ผลงานจากห้องเสื้ออมิตา พร้อมจัดเซอร์ไพร์สให้เหล่าสาวงามได้เห็น “มงกุฏนางสาวไทย 2559” ออกแบบโดยพรรณี เจมส์ (PANNEE GEMS) ประดับด้วยเพชรแท้จากเบลเยี่ยม 4.88 กะรัต ไพลิน 12.35 กะรัต มูลค่า 1.2 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดตัวมงกุฏรองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 เป็นมงกุฎประดับเพชรและไพลินเช่นกัน รวมมูลค่า 1.2 ล้านบาท เพื่อให้สาวงามผู้ประกวดได้เห็นกันอย่างใกล้ชิดครั้งแรก

สำหรับการฟิตติ้งชุดไทยโบราณ ธนิต พุ่มไสว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ผ้าลายอย่าง จ.เพชรบุรี เผยว่า “...แรงบันดาลใจที่เลือกคอนเซ็ปต์เป็นชุดไทยโบราณ 3 ยุค เพราะทั้ง 3 ยุคถือเป็นยุคทองของสยาม ที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงการแต่งกายของสตรีสยามมีความงามที่หลากหลายแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย ไม่ใช่แค่ยุคใดยุคหนึ่ง ส่วนที่เลือกใช้ผ้าลายอย่างเพราะเป็นผ้าที่โดดเด่นในราชสำนักสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่ราชสำนักสยามออกแบบและเขียนลายส่งไปผลิตที่ประเทศอินเดีย โดยใช้ผ้าฝ้ายจากแมนเชสเตอร์ประเทศอังกฤษ เมื่อพิมพ์เสร็จก็ส่งกลับมาใช้ในราชสำนักสยาม เรียกว่าผ้าลายอย่าง เป็นผ้าที่มีพระยศสูงที่สุด เหมาะกับเวทีที่ทรงคุณค่าอย่างนางสาวไทย ชุดทั้งหมดทำขึ้นมาใหม่และประยุกต์ให้เข้ากับสรีระของผู้เข้าประกวด...”

นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับไทยโบราณประกอบชุดไทยเสริมค่าความงามล้ำค่า จากบริษัท ศรีทวี จำกัด โดยกิติพงษ์ ศรีทวีทรัพย์ กรรมการบริษัท ศรีทวี กล่าวว่า “...แบรนด์ของเรามีประสบการณ์ด้านเครื่องประดับไทยโบราณมากว่า 40 ปี เมื่อได้รับคอนเซ็ปต์มาว่าจะต้องใช้เครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยทั้ง 3 ยุค จึงคัดเลือกเครื่องประดับที่แสดงถึงหัตถกรรมไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้นๆ มีบางชิ้นทำขึ้นใหม่สำหรับการประกวดโดยเฉพาะ จึงมีทั้งชุดไทยโบราณถึงไทยประยุกต์ แต่ละยุคจะเน้นไม่เหมือนกันคือในยุคสุโขทัยเน้นทั้งลายทั้งลงยา และมาเริ่มเน้นที่อัญมณีในยุคอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ ความโดดเด่นคือลวดลายทุกอย่างจะขึ้นมือเอง สร้างลวดลายทุกอย่างได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แสดงถึงความอ่อนน้อมในการทำงาน ซึ่งในเซ็ทหนึ่งจะประกอบไปด้วย ปิ่นปักผม, ต่างหู, สร้อยคอ, ตัวจี้ทับทรวง, สร้อยข้อมือ, มีแหวน, และตัวปั้นเหน่งหรือหัวเข็มขัด ด้านการประดับตกแต่งตัวเรือนจะมีการประดับ 5 แบบคือ คือการใช้แบบเพชรซีกแท้ของโบราณ, การเครื่องประดับสามสีคือ ทับทิม, มรกต และเพชรซีก, การประดับด้วยทับทิมล้วน, มรกตล้วน, หรือ นพเก้าคืออัญมณีมงคลทั้ง 9 โดยเตรียมมาทั้งหมด 27 เซ็ทจำนวนเกือบ 100 ชิ้น..”
    
ในระหว่างการฟิตติ้งชุดไทยโบราณ นั้นมีการเซอร์ไพรส์สาวงามด้วยการเปิดตัว "มงกุฎนางสาวไทย 2559" ออกแบบโดย พรรณี เจมส์ (PANNEE GEMS) โดย สุพรรณี อัศววงษ์วิวัฒน์ เจ้าของแบรนด์พรรณี เจมส์ เป็นผู้นำมามอบให้ เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานอำนวยการกองประกวดนางสาวไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบริษัท อินเด็กซ์ฯ โดย สุพรรณี กล่าวถึงคอนเซ็ปต์การออกแบบมงกุฎนางสาวไทย ประจำปี 2559 ว่า “..เป็นงานดีไซน์ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ขึ้นแบบและใช้มือทำ ตรงกลางของมงกุฎประดับตราวชิราวุธ สร้างสรรค์แนวคิดมาจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยนำโครงสร้างของต้นไม้ ใบไม้ และดอกไม้ มาลงลวดลายบนตัวมงกุฏ เปรียบเสมือนความงามของนางสาวไทยที่ต้องมีครบจากภายในสู่ภาย นอก คือมีพื้นฐานจิตใจที่ดีมั่นคงเช่นลำต้น มีความรู้ความสามารถที่แตกแขนงเหมือนใบไม้ มีรูปลักษณ์ กิริยา และมารยาทสวยงามเฉกเช่นดอกไม้ เป็นมงกุฏที่ควรคู่กับสาวงามที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนางสาวไทย 2559..”

นอกจากนี้ยังมีการฟิตติ้งชุดโมเดิร์นที่ได้แบรนด์ดังอย่าง “มิลิน” มาร่วมออกแบบครั้งแรก ให้กับเวทีการประกวดนางสาวไทย 2559 โดย มิลิน ยุวจรัสกุล เจ้าของแบรนด์และดีไซเนอร์ชื่อดัง “..เผยว่าการประกวดนางสาวไทยปีนี้พิเศษกว่าทุกปีและดูทันสมัยขึ้น เนื่องจากเปลี่ยนรูปโฉมการประกวดเป็นรายการเรียลลิตี้ ทำให้นางสาวไทยดูเป็นสาวยุคใหม่ ทัศนคติการประกวดก็ตรงกับสไตล์ของแบรนด์ คอนเซ็ปต์ของชุดจึงเป็นคอลเล็กชั่นสไตล์โมเดิร์นสำหรับสาวไทยยุคใหม่ แต่ชุดจะเป็นอย่างไรต้องรอชมวันตัดสิน..”

ลุ้นสาวงามคนไหนสามารถคว้ามงกุฏ “นางสาวไทย 2559” คนต่อไปในรอบ Crown Presentation (รอบตัดสิน) วันที่ 31 สิงหาคม 2559 จัดที่เมืองไทย GMM Live House เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 ถ่ายทอดสดเวลา 23.10 น. ทางช่อง 7HD